นักจิตวิทยาชี้ : 7 เหตุผลทางจิตวิทยา ที่ทำให้คนชอบ ซื้อหวย

หวยและสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นที่นิยมอย่างมากในสังคมไทย แม้ว่าโอกาสชนะจะน้อยนิดแต่ก็ยังมีคนจำนวนมากที่ซื้อหวยเป็นประจำทุกงวด บทความนี้จะนำเสนอเหตุผลทางจิตวิทยาที่อธิบายว่าทำไมคนจึงนิยมซื้อหวยและสลากกินแบ่ง แม้จะรู้ว่าโอกาสชนะนั้นน้อยนิดเพียงใด

1. “พลาดไปนิดเดียวเอง” – อคติของความใกล้เคียง

จากการศึกษาของ โรเบิร์ต วิลเลียมส์ ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพและการศึกษาการพนันที่มหาวิทยาลัยเลทบริดจ์ ประเทศแคนาดา ได้สรุปปรากฏการณ์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับเหตุผลทางจิตวิทยาที่อธิบายพฤติกรรมเสพติดการซื้อหวยของมนุษย์

วิลเลียมส์ชี้ให้เห็นว่า “ปรากฏการณ์พลาดไปนิดเดียว” (Near Miss Effect) มีอิทธิพลอย่างมากต่อจิตใจของผู้เล่น เมื่อคุณซื้อลอตเตอรี่แล้วถูกเพียง 3 ตัวจาก 6 ตัว สมองจะตีความว่า “เกือบได้แล้ว” ทำให้รู้สึกว่าควรจะลองอีกสักครั้ง ทั้งที่ความจริงแล้วในทางสถิติ การถูกเพียงบางส่วนไม่ได้หมายความว่าคุณเข้าใกล้การชนะมากขึ้นแต่อย่างใด

ปรากฏการณ์นี้ทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่าตนเองกำลังไปได้ดี และหากยังคงเล่นต่อไป โอกาสชนะก็จะเพิ่มมากขึ้น นี่คือการหลอกลวงทางจิตวิทยาอย่างแยบยล ที่ระบบการพนันใช้ตรึงผู้เล่นไว้ในวงจรการเล่นอย่างต่อเนื่อง

2. จินตนาการอันทรงพลัง – ฝันถึงชีวิตที่เปลี่ยนแปลง

มนุษย์เรามีพลังแห่งจินตนาการที่เข้มแข็ง ก่อนที่จะซื้อหวยสักใบ เรามักจะจินตนาการไปแล้วว่าหากถูกรางวัลจะนำเงินไปทำอะไรบ้าง บางคนถึงขั้นวางแผนการใช้เงินอย่างละเอียด จัดสรรว่าจะซื้อบ้าน รถยนต์ หรือนำไปลงทุนอย่างไร ทั้งที่ยังไม่ได้ซื้อหวยเลยด้วยซ้ำ

โรเบิร์ต วิลเลียมส์ อธิบายว่า คนส่วนใหญ่ตกอยู่ในกับดักของ “อคติเรื่องความเป็นไปได้” (Availability Bias) คือการคิดเข้าข้างตัวเองหรือมองโลกในแง่ดีเกินไป ทำให้ประเมินโอกาสชนะสูงเกินความเป็นจริง พวกเขามักจะนึกถึงคนใกล้ตัวที่เคยถูกหวย แต่กลับมองข้ามคนอีกมากมายที่ไม่เคยถูกรางวัลเลย

Dan Gilbert นักจิตวิทยาจาก Harvard อธิบายเพิ่มเติมว่า สื่อมีส่วนสำคัญในการเสริมแรงความเชื่อนี้ เพราะมักนำเสนอเรื่องราวของผู้ที่ถูกรางวัลใหญ่ แต่แทบไม่เคยสัมภาษณ์คนที่ซื้อหวยแล้วไม่ถูกเลย การได้เห็นข่าวคนถูกรางวัลอยู่บ่อยๆ ทำให้ผู้คนเชื่อว่าโอกาสชนะมีสูง ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วโอกาสถูกรางวัลที่หนึ่งนั้นน้อยมาก

ซันสไตน์ นักเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม ได้อธิบายในงานวิจัย “Selective Fatalism” ซึ่งตีพิมพ์ใน Journal of Legal Studies เมื่อปี 1988 ว่า “มนุษย์เชื่อว่าตัวเองมีโอกาสถูกหวยมากกว่าโอกาสที่แท้จริงที่ควรจะเป็นอย่างมาก” นี่คือการประเมินความเสี่ยงที่ผิดพลาดในทางที่เป็นบวกเกินจริง

3. ความน่าเชื่อถือจากการรับรองของรัฐบาล

ซันสไตน์ยังชี้ให้เห็นอีกว่า การที่รัฐบาลในหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย สนับสนุนและดำเนินการลอตเตอรี่อย่างเป็นทางการ ทำให้ประชาชนรู้สึกไว้วางใจและเชื่อถือในระบบหวย ความน่าเชื่อถือนี้สร้างความรู้สึกปลอดภัยและลดความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงิน

ในสังคมไทย สลากกินแบ่งรัฐบาลถือเป็นการพนันที่ถูกกฎหมาย ซึ่งแตกต่างจากการพนันประเภทอื่นๆ ที่ผิดกฎหมาย ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าการซื้อหวยเป็นเรื่องปกติและยอมรับได้ในสังคม การสนับสนุนจากรัฐยังสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับการซื้อหวย ว่าเป็นการช่วยสนับสนุนกิจการสาธารณประโยชน์ต่างๆ อีกด้วย

4. ปัญหาทางการเงินและความหวังสุดท้าย

“ยิ่งประสบปัญหาทางการเงินมากเท่าไหร่ ยิ่งมีแนวโน้มที่จะซื้อหวยมากยิ่งขึ้นเท่านั้น” นี่คือความจริงที่น่าเศร้าที่พบในหลายการศึกษา

ในปี 2011 นิตยสาร WIRED ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับจิตวิทยาของผู้เล่นหวย ผลการวิจัยสอดคล้องกับการศึกษาของ Carnegie Mellon ในปี 2008 ที่พบว่า คนที่ซื้อหวยเป็นประจำส่วนใหญ่คือผู้ที่มีฐานะยากจน หรือกำลังเผชิญกับปัญหาทางการเงิน

ความยากจนกลายเป็นแรงจูงใจอันทรงพลังที่ผลักดันให้คนกลุ่มนี้ซื้อหวยครั้งแล้วครั้งเล่า ด้วยความหวังว่าจะได้รับรางวัลก้อนใหญ่มาแก้ไขปัญหาชีวิต นักการตลาดของลอตเตอรี่ตระหนักถึงข้อเท็จจริงนี้ดี และมักออกแบบกลยุทธ์ทางการตลาดที่มุ่งเน้นไปยังครัวเรือนที่มีรายได้น้อย

การศึกษายังพบอีกว่า ผู้ซื้อมักจะซื้อหวยหลายใบในคราวเดียว เพราะรู้สึกสะดวกใจกว่าที่จะไปซื้อทีละน้อยหลายๆ ครั้ง นอกจากนี้ จากการศึกษาในปี 1997 โดย Henley Centre พบว่าแรงจูงใจหลักในการเล่นลอตเตอรี่ (55%) คือความหวังที่จะถูกรางวัลใหญ่ รองลงมา (15%) คือความเพลิดเพลินในการเล่น

5. ความเชื่อผิดๆ ของนักพนัน – ผีพนันเข้าสิง

ในวงการพนันมีคำศัพท์เฉพาะที่เรียกว่า “Gambler’s Fallacy” หรือบางครั้งก็เรียกว่า “Monte Carlo Fallacy” ซึ่งหมายถึงความเชื่อผิดๆ ของนักพนันในการทำนายโอกาสที่จะชนะ เช่น เชื่อว่าถ้าหวยออกเลขนี้บ่อยๆ ครั้งหน้าจะไม่ออกซ้ำ (จึงเลือกแทงเลขอื่น) หรือเชื่อว่าถ้าเลขนี้ไม่ออกมานานแล้ว ครั้งหน้าต้องออกแน่ๆ

ความเชื่อเหล่านี้ไม่มีฐานความจริงทางสถิติรองรับ เพราะในความเป็นจริงแล้ว แต่ละครั้งที่หวยออก โอกาสที่จะออกเลขใดก็มีเท่ากันหมด ไม่ว่าก่อนหน้านี้จะออกเลขอะไรมาก็ตาม แต่สมองมนุษย์มักมองหารูปแบบและความสัมพันธ์ แม้ในสิ่งที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญก็ตาม

ในสังคมไทย ยังมีความเชื่อเรื่อง “เลขเด็ด” จากเหตุการณ์แปลกๆ หรือความฝัน จนเกิดพฤติกรรมการตีความเลขจากทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นทะเบียนรถ วันเกิดคนดัง หรือเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างความเชื่อทางไสยศาสตร์กับการพนัน

6. FOMO – กลัวพลาดโอกาสที่จะรวย

FOMO ย่อมาจาก Fear of Missing Out หมายถึงความกลัวที่จะพลาดโอกาสสำคัญ กับหวยก็เช่นกัน หลายคนซื้อหวยเพราะกลัวว่าถ้าไม่ซื้อแล้วเกิดเป็นงวดที่เลขที่ตนเองชอบออก ก็จะเสียดายไปทั้งชีวิต

ความรู้สึกนี้ยิ่งรุนแรงขึ้นเมื่อเห็นคนรอบข้างพากันซื้อหวย หรือได้ยินข่าวคนถูกรางวัล ทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบและซื้อตามกัน แม้จะไม่เคยสนใจหวยมาก่อนก็ตาม นี่คือแรงกดดันทางสังคมที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการซื้อหวยอย่างมาก

ในยุคโซเชียลมีเดีย FOMO ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อข่าวคนถูกรางวัลแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และมักมีการแชร์ภาพความสุขของผู้โชคดี ทำให้คนทั่วไปรู้สึกว่าต้องไม่พลาดโอกาสบ้าง

7. ถอนทุนคืน – หลุมพรางแห่งการลงทุนที่สูญเปล่า

เควิน เบนเน็ตต์ นักจิตวิทยา อธิบายว่า คนที่ซื้อหวยมาเป็นเวลานานและไม่เคยถูกรางวัลเลย มักจะยังคงซื้อต่อไปเรื่อยๆ ด้วยความหวังว่าจะได้ “ถอนทุนคืน” (recoup losses) สักวันหนึ่ง

แนวคิดนี้เรียกว่า “Sunk Cost Fallacy” หรือความเข้าใจผิดเกี่ยวกับต้นทุนจม เป็นความเชื่อที่ว่าเมื่อลงทุนอะไรไปมากแล้ว ต้องดำเนินการต่อไปเพื่อให้คุ้มค่ากับสิ่งที่ลงทุนไป แม้ว่าความเป็นจริงแล้ว การลงทุนเพิ่มอาจไม่คุ้มค่าก็ตาม

คนที่ซื้อหวยมานานหลายปีอาจคิดว่า “เสียเงินไปมากแล้ว ถ้าเลิกตอนนี้ก็เท่ากับยอมแพ้ ขอซื้อต่อไปอีกสักพัก อาจจะถูกในที่สุด” ความคิดเช่นนี้ทำให้ติดอยู่ในวงจรการซื้อหวยไม่รู้จบ และยิ่งซื้อนานเท่าไร ก็ยิ่งรู้สึกว่าต้องซื้อต่อไปเพื่อให้คุ้มกับเงินที่เสียไปแล้ว

สรุป

เหตุผลทางจิตวิทยาทั้ง 7 ประการข้างต้น ช่วยอธิบายว่าทำไมคนจำนวนมากจึงยังคงซื้อหวยอย่างต่อเนื่อง แม้รู้ว่าโอกาสชนะนั้นน้อยนิด ความหวัง จินตนาการ และความเชื่อผิดๆ ผสมผสานกับปัจจัยทางสังคมและเศรษฐกิจ ทำให้การซื้อหวยกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตหลายคน

การตระหนักรู้ถึงกลไกทางจิตวิทยาเหล่านี้ อาจช่วยให้เราเข้าใจพฤติกรรมของตนเองและผู้อื่นได้ดีขึ้น และหากต้องการเล่นหวย ก็ควรเล่นอย่างมีสติ ไม่หวังพึ่งโชคลาภเป็นทางออกของชีวิต แต่มองเป็นความบันเทิงรูปแบบหนึ่งที่มีต้นทุนที่ต้องจ่าย